บริการติดตั้งรางน้ำฝน บ้านและอาคารครบวงจร
รางน้ำฝนถือเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันบ้านและอาคารจากความเสียหายที่เกิดจากน้ำฝน หากไม่มีการติดตั้งรางน้ำฝนที่ถูกต้อง น้ำฝนจะไหลลงมาตามผนังบ้าน พื้นดิน และฐานราก อาจทำให้ผนังชื้น พื้นทรุด หรือเกิดเชื้อราตามมา การติดตั้งรางน้ำฝนโดยทีมงานมืออาชีพจะช่วยปกป้องบ้านของคุณได้ในระยะยาว
ป้องกันผนังบ้านเสียหาย ลดการเกิดคราบดำ เชื้อรา และการลอกของสี
รักษาพื้นและฐานราก น้ำไม่กัดเซาะพื้นหรือทำให้ดินทรุด
เก็บกักน้ำฝนไว้ใช้ประโยชน์ เช่น รดน้ำต้นไม้ หรือนำไปกรองเพื่อใช้งาน
เพิ่มความสวยงามให้บ้าน รางน้ำฝนสมัยใหม่มีหลายแบบ หลายสี เข้ากับบ้านทุกสไตล์
ยืดอายุการใช้งานของบ้าน ลดค่าใช้จ่ายซ่อมแซมในอนาคต
รางน้ำฝนไวนิล (PVC) – น้ำหนักเบา ไม่เป็นสนิม สีไม่ซีดจางง่าย
รางน้ำฝนสแตนเลส – แข็งแรง ทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน
รางน้ำฝนอลูมิเนียม – น้ำหนักเบา ไม่เป็นสนิม รูปแบบสวยงาม
รางน้ำฝนสังกะสี – ราคาประหยัด แต่ต้องดูแลป้องกันสนิม
สำรวจหน้างาน วัดขนาดความยาวหลังคาและเลือกวัสดุที่เหมาะสม
ออกแบบการติดตั้ง กำหนดตำแหน่งรางและท่อน้ำลง
ติดตั้งรางและอุปกรณ์ เช่น ข้องอ ตะขอแขวน ท่อน้ำลง
ตรวจสอบการระบายน้ำ เพื่อให้การไหลของน้ำฝนเป็นไปอย่างราบรื่น
เก็บงานและทำความสะอาด มั่นใจว่างานเรียบร้อยและใช้งานได้ทันที
ถาม: รางน้ำฝนควรเลือกวัสดุแบบไหนดี?
ตอบ: ขึ้นอยู่กับงบประมาณและสไตล์บ้าน เช่น บ้านสมัยใหม่มักเลือกไวนิลหรืออลูมิเนียม ส่วนงานที่ต้องการความทนทานสูงมักเลือกสแตนเลส
ถาม: ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งรางน้ำฝนคิดอย่างไร?
ตอบ: โดยทั่วไปคิดตามความยาวของรางและชนิดวัสดุ ราคาจะเริ่มตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงพันบาทต่อตารางเมตร
ถาม: ต้องทำความสะอาดรางน้ำฝนบ่อยแค่ไหน?
ตอบ: ควรทำความสะอาดอย่างน้อยปีละ 1–2 ครั้ง เพื่อป้องกันการอุดตันจากเศษใบไม้
ถาม: ติดตั้งรางน้ำฝนใช้เวลานานหรือไม่?
ตอบ: บ้านทั่วไปใช้เวลาติดตั้งประมาณ 1–2 วัน ขึ้นอยู่กับขนาดบ้านและความซับซ้อนของงาน
ถาม: รางน้ำฝนมีการรับประกันหรือไม่?
ตอบ: บริษัทติดตั้งส่วนใหญ่มีการรับประกันทั้งวัสดุและงานติดตั้ง เพื่อความมั่นใจของลูกค้า
การติดตั้งรางน้ำฝนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับบ้านและอาคาร เพื่อป้องกันปัญหาความชื้น ความเสียหายต่อผนัง พื้น และฐานราก เลือกทีมงานติดตั้งที่เชี่ยวชาญและใช้วัสดุคุณภาพ จะช่วยให้บ้านสวยงาม แข็งแรง และใช้งานได้ยาวนาน