เชื่อได้เลยว่าในตู้เสื้อผ้าของทุกคนต้องมีเสื้อผ้าสีขาวอยู่อย่างน้อยหนึ่งตัว เพราะเป็นสีที่สามารถนำมาใส่คู่กับเสื้อผ้าได้ทุกเฉดสี ถึงแม้จะง่ายในการสวมใส่ แต่ไม่ง่ายเลยที่จะทำให้สีขาววิ๊งค์อยู่คงเดิม เพราะใส่ไปนานๆ จากสีขาวจั๊วะก็จะเกิดคราบเหลืองดูหม่นหมอง กลายเป็นปัญหาโลกแตกของใครหลายคน แต่วันนี้เราก็ได้มี "เคล็ด (ไม่) ลับ การซักผ้าขาว ให้ขาวสะอาดขาวจั๊วะอยู่เสมอ" มาฝากกัน รับรองว่าวิธีเหล่านี้จะทำให้เสื้อผ้าสีขาวคงเดิมแย่างแน่นอน !!
1. คืนความขาวให้ผ้าด้วยน้ำสไปรท์
แทบไม่น่าเชื่อใช่มั๊ยว่าน้ำอัดลมสไปรท์จะสามารถใช้ซักผ้าให้ขาวได้ด้วย วิธีนี้คือให้คุณเอาน้ำสไปรท์มาเทใส่กะละมัง โดยใช้น้ำสไปรท์ 1 ขวด ต่อเสื้อผ้า 2 ตัว แล้วให้ใส่ผงซักฟอกลงไปเล็กน้อย จากนั้นให้คนส่วนผสมให้เข้ากันจนเกิดฟอง แล้วเอาเสื้อผ้าขาวลงไปแช่ทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นค่อยลงมือซักให้สะอาด รับรองว่าชุดขาวของคุณจะขาวเปล่งประกายราวกับซื้อเหมือนใหม่
2. น้ำยาล้างห้องน้ำขจัดคราบเหลืองใต้รักแร้
วิธีนี้ใช้ได้ผลดีมากๆ โดยเฉพาะคราบเหลืองตรงใต้รักแร้ และปกคอเสื้อ วิธีการคือให้เอาเสื้อขาวบริเวณที่เป็นคราบสีเหลืองมาจุ่มน้ำหมาดๆ จากนั้นให้เอาไปจุ่มกับน้ำยาล้างห้องน้ำ แล้วใช้แปรงขัด (ควรสวมถุงมือยางด้วย) ให้ทำควบคู่ไปกับวิธีการขยี้ผ้า แล้วเอาไปแช่น้ำยาล้างห้องน้ำอีกครั้ง แต่ไม่ควรแช่นานเนื่องจากสีของน้ำยาล้างห้องน้ำอาจจะติดเนื้อผ้าได้ จากนั้นก็นำมาซักด้วยผงซักฟอกอีกครั้ง จะเห็นได้ว่าคราบเหลืองที่ติดเสื้อนั้น ได้หายไปจนเกลี้ยง เหลือเพียงความขาวของผ้าเท่านั้น
3. ใช้เศษสบู่มาซักผ้าขาว
หากที่บ้านของคุณใช้สบู่แบบก้อน ย่อมจะมีเศษสบู่ที่เหลือก้อนเล็กๆ ไม่พอที่จะเอามาใช้อาบแล้ว หรือคุณหันไปใช้ก้อนใหม่ ให้เราเอามาซักผ้าขาวได้เลย คือในระหว่างที่เราซักผ้าก็ให้นำเศษสบู่มาขัดบริเวณที่มีคราบด้วยจะทำให้เราสามารถขจัดคราบเหลืองที่ติดกับผ้าได้ง่ายขึ้น
4. ยาสีฟันก็ช่วยซักผ้าขาวได้
ถ้าเสื้อผ้าขาวของคุณเปื้อนเฉพาะจุด เช่น มีคราบกาแฟ คราบลิปสติก คราบเหลืองตรงรักแร้ หรือคอปกเสื้อ ให้เรานำเอาผ้าของเราตรงจุดที่เปื้อนไปจุ่มน้ำให้หมาด แล้วเอายาสีฟันที่มีเฉพาะสีขาว (บางยี่ห้อจะมีสีเขียว สีฟ้า) มาป้ายตรงรอยเปื้อน แล้วก็ใช้มือค่อยๆ ขยี้ตรงรอยเปื้อนนั้น จะช่วยให้คราบสกปรกหลุดลอกออกอย่างง่ายดาย
5. ใช้ไวท์ไฮเตอร์
คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักผลิตภัณฑ์ซักผ้ายี่ห้อนี้ ซึ่งเป็นที่รู้ๆ กันอยู่แล้วว่าได้ผลดีมากๆ ส่วนเทคนิคนี้เราแนะนำให้ใช้แบบเป็นผงผสมกับผงซักฟอกอ๊อกซีแมกซ์ แล้วแช่ผ้าของเราทิ้งไว้ซัก 1 -2 ชั่วโมง คราบเหลืองตรงปกคอ หรือคราบสกปรกต่างๆ จะหลุดออกเองโดยที่เราไม่ต้องเสียแรงขัดเลย
6. ใช้สบู่กรดเป็นตัวช่วย
สบู่กรดก้อนลายๆ หรือก้อนขาวๆ ส่วนมากเราจะใช้ซักถุงเท้า ซึ่งได้ผลดีมากๆ ช่วยให้เราสามารถซักถุงเท้าให้ขาวสะอาดได้ง่ายๆ คือให้เราใช้สบู่กรดมาถูบริเวณที่มีคราบ แล้วก็ซักขยี้ตามปกติ รอยที่ติดเสื้อผ้าจะหลุดออกไปอย่างง่ายดาย สบู่กรดแบบลายก้อนละ 5 บาท ส่วนสบู่กรดก้อนสีขาวเป็นแท่งยาวๆ ที่มักใช้ซักถุงเท้านั้น ราคาก้อนละ 10 บาทเองค่ะ ใช้ได้นานมากกว่าจะหมด
7. น้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาว
คือตอนที่เราแช่ผ้าก่อนที่จะซักเนี่ย ให้เอาน้ำมะนาวหรือน้ำส้มสายชู่มาแช่ผ้าพร้อมๆ กับผงซักฟอก แช่ไว้ซัก20 – 30 นาที แล้วจึงซักผ้าตามปกติ จะทำให้ผ้าขาวของคุณ ขาวแบบเปล่งประกาย แม้ใส่มานานแล้วก็ยังขาวได้อยู่ค่ะ ต้องซักแยกกันกับผ้าสีนะคะ
8. วิธีซักผ้าให้ขาวด้วยผงบอแร็กซ์
ในขณะที่กำลังใส่ผงซักฟอกลงไปนั้น ให้เอาผงบอแร็กซ์ใส่ลงไปด้วยซักครึ่งถ้วยตวงแล้วก็ปล่อยให้เครื่องซักผ้าทำงานตามปกติ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ผ้าของคุณกลับมาขาวได้แล้วค่ะ
9. ผงฟู + น้ำมะนาวช่วยซักผ้าขาวได้
ในตอนที่เราใส่ผงซักฟอกลงไปในเครื่องซักผ้านั้นให้เอาเบกกิ้งโซดาหรือผงฟูใส่ลงไปครึ่งถ้วยตวง และน้ำมะนาวอีกครึ่งถ้วยตวง จากนั้นก็ซักผ้าตามปกติ เท่านี้เสื้อผ้าคุณจะกลับมาขาว คราบสกปรกต่างๆ จะหลุดออกไปอย่างง่ายดายแล้วจ้า
10. น้ำซาวข้าวช่วยให้ผ้าขาวได้
เป็นที่รู้กันมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วสำหรับวิธีซักผ้าขาวด้วยน้ำซาวข้าว ถือว่าเป็นภูมิปัญญาที่ใช้ได้ผลดีเลย คือให้เรานำเอาเสื้อผ้าที่ดูหมอง มีคราบเหลือง มาแช่ในน้ำซาวข้าว โดยน้ำซาวข้าวที่แช่เนี่ยเราต้องเปลี่ยนทุกวัน ให้แช่ทิ้งไว้แบบนี้ 5 วัน รับรองว่าชุดสีขาวของคุณจะกลับมาขาวใหม่เหมือนเดิม ขอย้ำว่าต้องเปลี่ยนน้ำซาวข้าวทุกวันนะจ๊ะ!
และนี่คือวิธีซักผ้าขาวที่เราได้นำมาฝากกัน อย่างไรก็ตามแต่ละวิธีการนั้นก็ย่อมขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละบุคคล ว่าจะใช้วิธีซักผ้าขาวแบบไหน แต่สิ่งที่ต้องย้ำกันอีกครั้ง และสำคัญมากๆ ก็คือตอนซักผ้าหรือตอนแช่ผ้า จะต้องแยกผ้าขาวออกจากผ้าสีทุกครั้ง ไม่อย่างนั้นถ้าผ้าสีตกใส่ผ้าขาว ก็จะเกิดความยุ่งยากไปมากยิ่งขึ้นไปอีก
หน้าที่เข้าชม | 308,695 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 244,428 ครั้ง |
เปิดร้าน | 14 ก.ย. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |