ในหน้าร้อนกับอากาศที่สุดแสนจะทรมานเช่นนี้ หลายคนเลือกที่จะไปเดินรับแอร์เย็นฉ่ำในห้าง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเสียเงินมากกว่าอยู่ที่บ้านมั้ย หรือบางคนก็เลือกทำกิจกรรมพักผ่อนอยู่กับบ้าน ต่างคนก็มีวิธีคลายร้อนต่างกันไป เช่น เปิดแอร์ ตากพัดลม ผ้าเย็นเช็ดหน้า หรือไปนอนในเปลใต้ต้นไม้ ซึ่งสิ่งที่น่ากลัวตามมาในหน้าร้อนนี้ คงไม่พ้น เรื่องค่าไฟที่เราเผลอใช้งานแบบไม่รู้ตัว เพราะหน้าร้อนครั้งใด หนีไม่พ้นที่จะเปิดแอร์ พัดลม ตู้เย็นกันบ่อยขึ้น แต่เราก็สามารถลดค่าใช้ไฟฟ้าลงได้ด้วยวิธีง่ายๆ ดังต่อไปนี้
1. ซักผ้าด้วยน้ำเย็น
การซักผ้าไม่จำเป็นต้องใช้น้ำอุ่นหรือร้อนในการซัก เพราะน้ำเย็นนั้นช่วยขจัดคราบได้ดีกว่าน้ำอุ่นหรือร้อน แถมทำให้เสื้อผ้ามีสีซีดจางจากการซักน้อยกว่าการซักด้วยน้ำอุ่นหรือร้อนอีกด้วย และข้อดีที่ดีที่สุดของการซักผ้าด้วยน้ำเย็นคือ ประหยัดค่าไฟ เพราะเครื่องซักผ้าไม่ต้องทำให้น้ำอุ่นหรือร้อนขึ้นก่อนการซัก
2. ซักผ้าครั้งละมาก ๆ
แทนที่จะซักผ้าทุกสัปดาห์ ทั้ง ๆ ที่ในตะกร้ามีผ้าเพียงไม่กี่ชิ้น ลองเปลี่ยนมาซักผ้าสองสัปดาห์ครั้ง หรือจนกว่าเสื้อผ้าจะเต็มตะกร้าแล้วค่อยซักดีกว่า ช่วยให้ลดจำนวนการซักผ้าต่อเดือนลงไป และแน่นอนช่วยลดการใช้น้ำและไฟฟ้าลงไปด้วย
3. ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งาน
ถึงแม้ว่าเราจะปิดสวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้าหลังจากใช้งานแล้ว แต่การที่ยังคงเสียบปลั๊กค้างเอาไว้ จะทำให้กระแสไฟยังคงวิ่งอยู่ตลอดเวลา และทำให้คุณเสียค่าไฟฟ้าโดยใช่เหตุ นอกจากนี้ การเสียบปลั๊กไฟค้างเอาไว้ อาจจะก่อให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้เกิดอัคคีภัยขึ้นได้ด้วย ดังนั้น การถอดปลั๊กของเครื่องใช้ไฟฟ้าหลังจากใช้งานทุกครั้งนอกจากจะช่วยประหยัดไฟแล้ว ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับบ้านและทรัพย์สินของคุณอีกด้วย
4. เปิดหน้าต่าง
การเปิดหน้าต่างนั้น จะช่วยระบายอากาศและทำให้ลมสามารถพัดผ่านเข้ามาในตัวบ้านได้ และช่วยทำให้อากาศในบ้านเย็นลง ดังนั้น แทนที่จะเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา ลองเปลี่ยนมาใช้ลมธรรมชาติในการทำให้บ้านเย็นลง จะช่วยประหยัดไฟฟ้าไปได้มากเลย
5. ใช้พัดลมเป็นตัวช่วยแทนเครื่องปรับอากาศ
นอกจากการเปิดหน้าต่างแล้ว หากเปิดพัดลมตั้งพื้นหรือพัดลมเพดาน จะยิ่งช่วยทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกมากขึ้น และช่วยทำให้อากาศในบ้านเย็นลงได้ด้วย
6. เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เหมาะกับหน้าร้อน
ในหน้าร้อนที่มีอากาศร้อนแบบนี้ การเลือกใส่เสื้อผ้าก็มีส่วนช่วยทำให้คุณสบายตัวมากขึ้น ลองเปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าเบาบาง เช่น ผ้าลินิน ผ้าฝ้าย หรือหากจำเป็นต้องใส่เสื้อผ้าทางการอย่างชุดสูท ลองเปลี่ยนมาใส่สูทผ้าเฟรสโก้ (fresco) ซึ่งดูภายนอก เนื้อผ้าอาจจะดูหนาไปนิด แต่ให้ความเย็นสบายอย่างดีเยี่ยม
7. แช่เย็นผ้าปูที่นอน
ก่อนเข้านอนสัก 2–3 ชั่วโมง ลองนำผ้าปูที่นอนรวมถึงปลอกหมอนต่าง ๆ พับใส่ถุงซิปล็อคหรือกล่องพลาสติก แล้วนำไปแช่ในตู้เย็น เมื่อถึงเวลานอนก็นำมาปูที่นอน ใส่ปลอกหมอน จะช่วยทำให้เตียงนอนของคุณเย็นขึ้น และนอนหลับสบายมากขึ้น
8. ทำความสะอาดแผ่นกรองเครื่องปรับอากาศ
ควรหมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองของเครื่องปรับอากาศอยู่เสมอ เพื่อช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้สะดวกขึ้น หากแผ่นกรองอากาศสกปรกจะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้น สิ้นเปลื่องไฟฟ้ามากขึ้น และทำให้คุณลมแทบจับ เมื่อเห็นบิลเรียกเก็บค่าไฟฟ้า
9. เปิดเครื่องปรับอากาศในอุณหภูมิที่เหมาะสม
จริงอยู่ว่าอากาศเมืองไทยนั้นร้อน แต่การเปิดเครื่องปรับอากาศในอุณหภูมิที่ต่ำมากมาก จะทำให้คุณเสียเงินค่าไฟโดยใช่เหตุ ควรเปิดเครื่องปรับอากาศให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม ประมาณ 25 องศา ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไปก็เพียงพอแล้ว จะช่วยให้คุณปรับหยัดค่าไฟฟ้าได้มากขึ้น
10. ปิดเครื่องปรับอากาศล่วงหน้า
เครื่องปรับอากาศแทบทุกรุ่น จะมาพร้อมกับระบบตั้งเวลาเปิดปิดได้ ซึ่งแม้ว่าเครื่องปรับอากาศจะถูกปิดไปแล้ว แต่หากคุณปิดหน้าต่างปละประตูอย่างมิดชิด อากาศเย็นจะยังคงวนเวียนอยู่ภายในห้องสักพักใหญ่เลยทีเดียว โดยการตั้งเวลาปิดเครื่องปรับอากาศก่อนเวลาตื่นนอนหรือก่อนออกจากบ้านของคุณสัก 1 ชั่วโมง จะช่วยลดปริมาณการใช้ไฟฟ้า และช่วยลดค่าใช้ไฟฟ้าได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ค่าไฟจะมากหรือจะน้อย ไม่ได้อยู่ที่ประสิทธิภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าของเราเองด้วย ดังนั้นนอกจากทำตามคำแนะนำเหล่านี้แล้ว ก็อย่าลืมสอดส่องเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านด้วย หากพบเจอว่า ปลั๊กตรงไฟเสียบคาไว้ โดยไม่ได้ใช้งาน ก็ให้รีบถอดปลั๊กออกด่วน ๆ เลย เป็นต้น แค่นี้ก็สามารถประหยัดค่าไฟฟ้าไปได้แล้ว ไม่มากก็น้อย
หน้าที่เข้าชม | 308,695 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 244,428 ครั้ง |
เปิดร้าน | 14 ก.ย. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |