QUOTE 

ส่องเทรนด์‘ความงาม’หนุนไทยบุกอาเซียน

แล็ค

ธุรกิจความงามเป็นดาวรุ่งที่ผู้ประกอบการไทยให้ความสนใจ ด้วยมูลค่าตลาดความงามในไทย 2.5 แสนล้านบาท

ทั้งรายเก่าและหน้าใหม่กว่า 1,800 ราย ต่างงัดสารพัดกลยุทธ์ช่วงชิงตลาด โดยเฉพาะเพื่อนบ้านในอาเซียน นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะได้เปรียบเรื่องต้นทุนการขนส่งแล้ว มูลค่าตลาดของอุตสาหกรรมในอาเซียนยังมากถึง 5 แสนล้านบาท

อนุชนา วิชเวช ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการ บริษัท ยูบีเอ็ม เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดงาน อาเซียนบิวตี้ 2017 งานแสดงสินค้า เทคโนโลยี นวัตกรรมความงามและการเจรจาธุรกิจด้านอุตสาหกรรมความงาม กล่าวว่า ผู้ประกอบการธุรกิจเครื่องสำอางทั่วประเทศกว่า 1,800 ราย ในจำนวนนี้เป็นเอสเอ็มอี 90% แบ่งสัดส่วนตามพื้นที่กรุงเทพฯ 53.5% ภาคกลาง 27.5% และภาคเหนือ 6.2% มีแนวโน้มการเติบโตและขยายตลาดต่อเนื่องทั้งไทยและอาเซียน 

จากข้อศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า ธุรกิจความงามในไทยที่แข่งขันดุเดือด ผู้ประกอบการต้องมองหาโอกาสทางตลาดใหม่เพื่อสร้างยอดขาย ขยายกลุ่มลูกค้า ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เริ่มจาก ฟิลิปปินส์ (The Value Considerations) ฟิลิปปินส์นำเข้าสินค้าความงามจากไทย 33% มากอันดับ 1 จากอินโดนีเซียเป็นลำดับที่ 2 ชาวฟิลิปปินส์มักมองหาแบรนด์ที่ควบรวมหลากคุณสมบัติการบำรุงในหนึ่งเดียว เพราะหมายถึงคุ้มค่าที่จะจ่าย ทำให้สินค้าความงามที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย ขาวกระจ่างใส และป้องกันแสงแดดในหลอดเดียว ได้รับความนิยม ตลาดความงามในฟิลิปปินส์เติบโต 4.2% มีมูลค่า 3,500 ล้านดอลลาร์ โดยผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Shower and Hair Care ได้รับความนิยมมากที่สุด

เมียนมา (Plenty of Potential) ตลาดความงามมีมูลค่า 318 ล้านดอลลาร์ เติบโตเฉลี่ย 14% ต่อปี  โดยยอดขายผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมขยายตัว 97.5% รองลงมาคือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า 70.25% กลุ่มดูแลและบำรุงผิวกายเติบโต 63% ผลสำรวจยังพบว่า ผู้ที่มีรายได้ระดับกลางและระดับสูงนิยมเลือกใช้บริการสถานเสริมความงามและบริการทางการแพทย์ในไทยและสิงคโปร์ อัตราการใช้บริการเฉลี่ยอยู่ที่ 1.5-2 แสนบาทต่อครั้ง 

กัมพูชา (Import Over-Reliant) แม้ประชาชนส่วนใหญ่ยังมีกำลังซื้อไม่สูง การตัดสินใจซื้อแต่ละครั้งเน้นพิจารณาประโยชน์และราคา แต่กำลังขยับฐานะสู่ชนชั้นกลาง ความนิยมสินค้าฟุ่มเฟือยและสิ่งอำนวยความสะดวกจึงเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ตลาดความงามของกัมพูชาพึ่งพาการนำเข้า ปี 2557 กลุ่มเครื่องสำอางและบำรุงผิวนำเข้าเพิ่มขึ้นกว่า 400% 

ลาว (Rising Demand for Beauty Product)  มีแรงซื้อเพิ่มขึ้นตามจำนวนประชากรวัยทำงานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น การคืบคลานเข้ามาของวัฒนธรรมตะวันตกผ่านสื่อต่างๆ กระตุ้นให้เครื่องสำอางจากต่างประเทศ และเครื่องสำอางของไทยได้รับความสนใจ อย่างไรก็ดี วัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกับไทย ความชื่นชอบในสื่อโทรทัศน์วิทยุและดารานักแสดงไทย เป็นโอกาสให้เครื่องสำอางแบรนด์ไทยเข้าถึงประชากรลาวได้มากขึ้น 

เวียดนาม (Up From a Low Base) ยอดขายเครื่องสำอางที่เพิ่มขึ้น 12% ในปี 2558 มูลค่าตลาด 1,200 ล้านบาท ปีที่ผ่านมาเติบโต 4%  ปัจจัยหลักที่ทำให้ตลาดความงามในเวียดนามเติบโต คือ การเพิ่มขึ้นของรายได้ประชากรในเวียดนาม การเข้าถึงเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ร้านค้าออนไลน์ ประชาชนในเขตชนบทซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น และประชากรกว่า 20 ล้านคน หรือ 40 % ในเวียดนามเป็นผู้หญิง อายุ 15-29 ปี แต่กว่า 90% ของตลาดความงามในเวียดนามถูกครอบครองโดยนักลงทุนต่างชาติ แบ่งเป็น เกาหลี 30% ยุโรป 23% ญี่ปุ่น 17% ไทย 13% สหรัฐ 10% อื่นๆ 7%  

อินโดนีเซีย (Coming of Men's Grooming)  มูลค่าตลาดความงามของอินโดนีเซียอยู่ที่ 3,600 ล้านดอลลาร์ ยูโรมอนิเตอร์คาดการณ์ว่าตลาดจะเติบโตต่อเนื่อง 17% ต่อปี โดยการเติบโตของอีคอมเมิร์ซที่อินโดนีเซียผลักดันตลาดความงามขยายตัว โดยผลสำรวจของนีลเส็นพบว่ายอดขายเครื่องสำอางในตัวเมืองของอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น 9.4%  ยอดขายต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น 27.5% โดยตลาดต่างจังหวัดเน้นขายสินค้าในกลุ่มสกินแคร์พื้นฐานและเครื่องสำอางที่ติดทน การทำตลาดในเมืองเน้นสินค้าไฮเอนด์ เพราะประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ทำให้สินค้าฮาลาลเติบโตอย่างน่าจับตามอง รวมถึงผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Men Grooming โดยสินค้าความงามของผู้ชายที่ได้รับความนิยมได้แก่ โฟมล้างหน้า ครีมบำรุง และลดเลือนริ้วรอย

มาเลเซีย (Image Conscious)  ตลาดความงามมีมูลค่า 1,700 ล้านดอลลาร์ เติบโต 5.7% ต่อปี มาเลเซียเป็นผู้ผลิตเครื่องสำอางฮาลาลรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยตลาดความงามฮาลาลทั่วโลกมีมูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์ กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมในมาเลเซีย คือ เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้า แต่งตา และลิปสติก ขณะที่ผู้บริโภคที่มีรายได้น้อยจะมองหาแบรนด์ทางเลือกที่ราคาย่อมเยาลงมา แต่ยังคงสีสันและคุณภาพใกล้เคียงแบรนด์ชั้นนำ เช่น Silky Girl ของมาเลเซีย

สิงคโปร์ (Only The Best) ตลาดความงามคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 278 ล้านดอลลาร์ หรือ 9,840 ล้านบาทภายในปี 2563 สูงสุดในอาเซียน อัตราการเติบโตจึงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2.5 % ต่อปี คนสิงคโปร์มีการศึกษาดี รายได้สูง จึงมีกำลังซื้อสูง นิยมสินค้าแบรนด์เนม ได้รับอิทธิพลเรื่องวัฒนธรรมและวิถีชีวิตจากตะวันตกค่อนข้างมาก โดยเฉพาะวัยรุ่น ติดตามกระแสนิยมและแฟชั่นในตลาดโลกและมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ สินค้าความงามที่ได้รับความนิยมมักเป็นสินค้าราคาสูง

แสดงความคิดเห็นที่ 0-0 จากทั้งหมด 0 ความคิดเห็น

OUR PRODUCTS

รางน้ำฝนใกล้ฉันภาคอีสาน [1]
รางน้ำฝนใกล้ฉันภาคกลาง [0]
รางน้ำฝนใกล้ฉันภาคเหนือ [0]
รางน้ำฝนใกล้ฉันกรุงเทพปริมณฑล [0]
รางน้ำฝนใกล้ฉันถนนเขตกรุงเทพ [0]

MEMBER

STATISTIC

หน้าที่เข้าชม308,667 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด244,400 ครั้ง
เปิดร้าน14 ก.ย. 2559
ร้านค้าอัพเดท6 ก.ย. 2568

CONTACT

081-0144828
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านช่างติดตั้งรางน้ำฝนราคาถูก
ช่างติดตั้งรางน้ำฝนราคาถูก
บริการ ติดตั้งรางน้ำฝน รับเหมารับติดตั้งท่อดูควัน ติดตั้งกันสาด ผ้าใบ หลังคาไวนิล ตามบ้าน อาคาร โรงงาน ออกแบบ ติดตั้งโครงกันสาด อลูมิเนียม เมทัลชีท ผ้าใบ ติดตั้งลูกหมุนระบายอากาศ ร้านอาหาร ปล่องดูดควัน ห้องครัว รับทำรางน้ำฝน ปล่องดูดควัน
เบอร์โทร : 081-0144828
อีเมล : decho.by@hotmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม