10 ผลไม้ของดี มีวิตามินซี ช่วยต้านไข้หวัด สรรพคุณเริ่ด!

หลายคนคงทราบกันดีว่า ในผลไม้หลากหลายประเภทจะอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมายโดยเฉพาะ “วิตามินซี” ซึ่ง ผลไม้มีวิตามินซี เหล่านี้ จะทำหน้าที่เป็นเหมือนเกราะป้องกันโรคต่างๆ ให้กับเรา แถมยังช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวพรรณให้ดูชุ่มชื่น และที่สำคัญมันช่วยคุ้มกันเราจากโรคไข้หวัดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย สำหรับใครที่รู้สึกว่าตัวเองป่วยง่าย อยากจะลองหาผลไม้ที่มีวิตามินซีมาทานดู แต่ไม่รู้จะเริ่มจากอะไร วันนี้เรามีผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี 10 ชนิดมาฝากกัน

1. มะขามป้อม

เรียกได้ว่าเจ้ามะขามป้อมนั้นเป็นผลไม้ที่ให้วิตามินมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ซึ่งหากจะเทียบกับการทานน้ำส้มคั้นแล้ว มะขามป้อมสามารถให้วิตามินได้สูงกว่าถึง 20 เท่าเลยทีเดียว โดยในผล 100 กรัม มะขามป้อมนั้นให้วิตามินซีได้ถึง 276 มิลลิกรัม เห็นแบบนี้นอกจากจะช่วยป้องกันโรคหวัดแล้ว ยังช่วยลดเสมหะที่เหนียวข้นในลำคอของเราให้จางลงอีกด้วย

2. มะขามเทศ

ใครที่เคยทานมะขามเทศ จะรู้ว่าแม้รสชาติของมันจะไม่เปรี้ยวมากเท่าไหร่ แต่มันก็มีวิตามินซีสูงเกือบเทียบเท่ามะขามป้อมเลยเชียวล่ะ แถมยังมีวิตามินอีด้วย ซึ่งหากเราทานมะขามเทศเข้าไป ก็จะได้ทั้งวิตามินซีและอี ที่จะช่วยบำรุงหัวใจ ลดการเกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือด และทำหน้าที่กำจัดสารอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ เห็นแบบนี้คงต้องไปลองหามาทานบ้างแล้ว

3. ฝรั่ง

ขอบอกเลยว่าฝรั่งเป็นผลไม้ที่หาทานง่ายมากๆ คนที่ไม่เคยทานอาจจะต้องคิดใหม่แล้วล่ะ เพราะถึงแม่ว่าฝรั่งจะมีรสชาติฝาดๆ แต่ในผลสดๆ ของฝรั่ง 100 กรัมนั้นอุดมไปด้วยวิตามินซีสูงถึง 160 มิลลิกรัม ซึ่งปริมาณวิตามินขนาดนี้ เพียงพอกับความต้องกายของร่างกายใน 1 วันเลย เรียกได้ว่าหาทานง่ายแถมยังคุ้มอีกด้วยนะ แต่ขอกระซิบไว้อย่างหนึ่งว่า เปลือกเขียวๆ ของมันเป็นแหล่งสะสมของวิตามินชั้นดีเลยล่ะ เพราะฉะนั้นอย่าปอกเปลือกมันออกเชียวนะ

4. กีวี่

แค่ชื่อก็ฟังดูน่าทานแล้ว แถมรสชาติที่ดูเปรี้ยวของมันยังมีวิตามินซีสูงถึง 105 มิลลิกรัมต่อผล 100 กรัม นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยกากใยอาหารที่ช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย ลดอาการท้องผูก แถมแคลอรี่ต่ำ เหมาะสำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนักเลยเชี่ยวล่ะ

5. ลิ้นจี่

ลิ้นจี่เป็นผลไม้ที่มีเนื้อหอม หวาน ทานทีไรก็อร่อยทุกที ซึ่งลิ้นจี่สามารถช่วยบำรุงเลือด แก้ไอ คัดจมูก รวมถึงป้องกันโรคกระดกพรุนได้ เพราะมันมีวิตามินซีอยู่ 71 มิลลิกรัมในลิ้นจี่ 100 กรัม ทั้งดีทั้งอร่อยแบบนี้ ไม่หามาทานถือว่าพลาดมากๆ

6. มะละกอสุก

ใครๆ อาจทราบกันดีว่าสรรพคุณจุดเด่นของมะละกอคือ การช่วยให้เราขับถ่ายได้คล่องขึ้น เพราะในมะละกอมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันเราจากโรคลักปิดลักเปิด เลือดออกตามไรฟัน และกำจัดแบคทีเรียต่างๆ อันเป็นสาเหตุของการเกิดไข้หวัดด้วย เพราะในเนื้อของมะละกอ 100 กรัม มีวิตามินซีอยู่ถึง 70 มิลลิกรัมเลยทีเดียว

7. สตรอว์เบอร์รี

สตรอว์เบอร์รี เป็นผลไม้ในใจของใครหลายๆ คน ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยสะดุดตา แถมรสชาติก็เปรี้ยมอมหวาน อร่อยถูกปากใครๆ ได้ไม่ยาก แล้วรู้หรือเปล่าว่าในสตรอว์เบอร์รี 100 กรัมนั้นมีวิตามินซีอยู่ 66 มิลลิกรัมเชียวล่ะ หากเราทานสตรอว์เบอร์รีเข้าไปแล้ว นอกจากจะได้รับวิตามินซีแล้ว ก็ยังมีสารที่ชื่อว่าซูเปอร์ไฟเบอร์เพคตินจากสีแดงของผลมัน ซึ่งสารนี้จะช่วยลดปริมาณคลอเลสเตอรอลในร่างกาย ช่วยดับกลิ่นปาก แถมยังรักษาสุขภาพเหงือกและฟันให้ดูแข็งแรงอีกด้วยนะ

8. เงาะ

แม้ว่ารสชาติของเงาะจะไม่ได้ออกเปรี้ยวเหมือนผลไม้ชนิดอื่น แต่เงาะก็เป็นผลไม้ที่ให้วิตามินซีสูงอีกชนิดนึงเลยล่ะ เพราะในเงาะ 100 กรัมจะอุดมไปด้วยวิตามินซีถึง 53 มิลลิกรัม เมื่อทานเข้าไปแล้วเจ้าเงาะนั้นจะไปช่วยรักษาอาการอักเสบต่างๆ ในช่องปาก และป้องกันเราจากโรคท้องร่วง

9. ส้มโอ

หลายคนอาจจะเคยเห็นว่า นอกจากเราจะทานส้มโอกันแบบสดๆ แล้ว เรายังสามารถนำส้มโอมาแปรรูปเป็นยำ หรือทานคู่กับข้าวสวยได้ด้วย โดยในส้มโอ 100 กรัม จะมีปริมาณวิตามินซีอยู่ที่ 44 มิลลิกรัม ซึ่งส้มโอสามารถช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ขับเสมหะ ลดอาการท้องอืด แน่นท้อง แล้วยังแก้ไอได้อีกด้วยนะ

10. พุทรา

ด้วยความที่พุทราเป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวปนฝาด ทำให้มันมีวิตามินซีสูงพอๆ กับส้มโอเลย ส่วนสรรพคุณของพุทรานั้น สามารถช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดความเหนียวข้นของเสมหะในลำคอ ป้องกันการตีบตันของเส้นเลือด และที่สำคัญยังช่วยให้เรานอนหลับได้สบายมากขึ้นด้วย

เห็นไหมล่ะคะว่าผลไม้ที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีนั้น ให้ประโยชน์กับร่ายกายของเราได้มากกว่าที่คิดเสียอีก ในยุคที่คนหันมาใส่ใจสุขภาพแบบนี้ การทานผลไม้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายแล้ว ผลไม้ยังเหมือนยารักษาโรคทางอ้อมด้วยนะ เพราะฉะนั้นเพื่อสุขภาพที่ดีของเรา ลองหันมาทานผลไม้กันเถอะ